บันทึกเรื่อยเปื่อย

15 ธันวาคม 2562

มารีวิวทริปชะโงกแดรก 1 วัน 1 คืน ณ เมืองขอนแก่น


            จุดเริ่มต้นทริปนี้มาจากพี่ที่รู้จักอยากสัมผัสรสชาติของแจ่วฮ้อนแท้ๆ ฉบับอีสานสไตล์
เนื่องจากพาไปกินที่ห้างแล้วพากันท้องเสียกลับมา และอยากรู้ความต่างของรสชาติแจ่วฮ้อนเมืองกรุงกับอีสานขอนแก่นเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงวางแผนทริปนี้ด้วยความไวแสง จองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่วันที่ 16
กำหนดวันเดินทางคือวันที่ 19 มีนา - 20 มีนา 62 ด้วยเครื่องบินหางแดง.....

             บอกเลยทริปนี้ไปเพื่อแดรก เอ้ย!! เพื่อกิน อาจมีแวะไหว้พระนิดหน่อย (เพราะอยู่ในเส้นทางกิน) สามสาว กับ 4 ร้านแจ่วฮ้อน 5 ร้านคาเฟ่ขนม กาแฟ รวม 9 ร้าน !!!!!  Σ(꒪ȏ꒪)


       ┗(^0^)┓     เอาล่ะมาเริ่มกันเถอะ!!!! Let's GO!!!     ┗(^0^)┓

แว้นพี่วินพี่รอพี่ร่วมทริป


            เช้าวันที่ 19 มีนา สะพายเป้แว้นพี่วินไปรอพี่อีกคนที่ BTS สะพานควายเพื่อจับรถแท็กซี่ไปดอนเมือง (อันที่จริงไปรถ A2 ได้นะ แต่ตอนนั้นรอไม่ทันแล้ว รถมาทุกครึ่งชั่วโมง) เพื่อไปให้ทันไฟล์ทบินตอน 10.55 น. หลังจากเช็คอินขึ้นเครื่องเรียบร้อยระหว่างที่แอร์ฯ กำลังตรวจผู้โดยสาย เราก็เปิดเมนูของกินบนเครื่องเลยว่ามีอะไรน่ากินบ้าง แล้วสายตาก็ปะทะเข้ากับเมนูปังนมโสด รสนมเย็น และคอกเทลเบอรี่เข้า.... ไม่รอช้า คุณแอร์ฯ ขาาาา ซื้อของหน่อยค้าาาาาา ทันทีทันใด เกือบไม่ได้กินเพราะเที่ยวนี้บินไวเวอร์ แปปๆ จะถึงสนามบินขอนแก่นซะแล้ว


จุดขึ้นรถอยู่ชั้น 2
 
            หลังจากเครื่องหางแดงพามาถึงสนามบินขอนแก่นในเวลาเที่ยงนิดๆ ก็เดินทางเข้าเมืองด้วยขอนแก่นซิตี้บัส สีเขียว ราคามิตรภาพ 15 บาท ไปได้ทุกที่ จุดจอดรถอยู่ชั้นสองของสนามบินค่ะ เมื่อเราออกจากเกตผู้โดยสายขาเข้าแล้วก็ขึ้นบันได้เลื่อนไปชั้น 2 เลย 
            มาถึงประตู มข. ฝั่งสีฐานตอนเที่ยงครึ่ง ก็มาต่อรถชัตเติลบัสสายสีส้มเข้ามอมาลงหน้าตึกอธิการฯ เพื่อมานั่งสายสีแดงต่อไปยังประตูฝั่งกังสดาล (หลายต่อเนาะ แต่ส่วนหนึ่งที่นั่งเพราะสนองนีทตัวเอง หลังจากจบไปนานไม่ได้นั่งชัตเติลบัสรุ่นใหม่) จากนั้นก็เรียกแท็กซี่ไปร้านแรก.....


มาทานตอนบ่ายๆ คนยังน้อยอยู่


             ภารกิจแรก เริ่มต้นที่ร้าน "แจ่วฮ้อนอภิรมณ์ มข."
             สั่งชุดเนื้อสี่สหาย สันคอหมู เสือร้องไห้ เนื้อใบพาย.... น้ำจิ้มร้านนี้เป็นน้ำซุปได้ด้วย
น้ำซุปที่ได้ก็จะออกแนวขลุกขลิก แต่ถ้าข้นไปก็สามารถเติมน้ำเปล่าเพิ่ม รสชาติน้ำจิ้ม/น้ำซุปจะออกหวานนำ ไม่เผ็ดมากเท่าไหร่ เนื้อที่ได้จานใหญ่มาก!!!! เนื้อดูฉ่ำนุ่ม ไม่แห้ง


ภาพเบลอๆ หน่อย เพราะรีบถ่ายรีบกิน หิว!!!
 
เนื้อดูดีทีเดียว อร่อยสุดในบรรดาร้านที่ไปตระเวนกินมา
     
 ส่วนตัวประทับใจเนื้อเสือร้องไห้ กินแล้วจะร้องไห้ อร่อยแสงพุ่ง เป็นเนื้อที่เคี้ยวแล้วได้กลิ่นเนยนมลอยอวลๆ ในปาก ฮรือออออ อยากกินอีก....... ใช้เวลาในร้านอภิรมณ์ไปประมาณ 1 ชั่วโมง กับการจัดการแจ่วฮ้อนจนหมดก่อนจะไปต่อร้านที่ 2 ที่อยู่ถัดไปไม่ไกลกันมาก



เดินย้อนกลับมาฝั่งถนนฝังกัง (ร้านนี้เราลืมถ่ายหน้าร้าน)


             จากนั้นก็เดินย่อยไปร้านที่ 2 ตรงถนนกัลปพฤกษ์ หรือถนนฝั่งกังนั้นแหละจะเจอ "ร้านน้อยแจ่วฮ้อน" ที่ตั้งอยู่ใกล้ม่วนซื่นบ้านกาแฟ ร้านนี้เราสั่งชุดแจ่วฮ้อนเนื้อ เพิ่มเนื้อขาลาย สันคอหมู ไส้อ่อน เนื้อขาลายลวก และยำไส้อ่อน มาทานกัน ส่วนน้ำซุปก็จะไม่ข้นเหมือนร้านแรกแล้ว มาน้ำจิ้มแจ่วกับน้ำจิ้มคล้ายๆ น้ำจิ้มสุกี้ให้มาด้วย

ร้านที่สองก็ยังทานเนื้อ
เนื้อลายลวกหน้าตามไม่เลว
น้ำจิ้มแจ่วร้านนี้มีให้ข้าวคั่ว กระเทียม พริก ดี ให้เติมเพิ่มได้จ้า




             โดยภาพรวมเราเฉยๆ กับร้านนี้นะรสชาติก็ได้อยู่ แต่ยังไม่ถูกใจเราอ่ะ แต่เนื้อสู้ร้านแรกไม่ได้ ใช้เวลาจัดการอาหารโต๊ะนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง (ทำเวลาดีมาก!) จากนั้นก็ไปหาอะไรมาล้างปากซะหน่อย ทานแจ่วฮ้อนเนื้อสองร้านติดๆ แล้ว พอดีกับร้านน้อยแจ่วฮ้อนอยู่ติดกับร้านม่วนซื่นบ้านกาแฟ ดังนั้นเราก็เคลื่อนพลไปร้านนี้เป็นสถานที่ถัดไป......


ภาพหน้าร้านไม่ได้ถ่าย (อีกแล้ว) ตัดมาอีกทีก็หน้าเคาท์เตอร์สั่งน้ำแระ 5555+

              สามสาว (???) แบกเป้แบ็คแพ็คมาดนั่งท่องเที่ยวเต็มพิกัดฝ่าแดดร้อนยามบ่ายสามเข้ามาในร้าน ก็ต้องตะลึงกับเมนูที่ละลานตาหน้าเคาท์เตอร์ ก่อนจะเล็งๆ ดูเมนูไหนน่าสนใจหรือน่ากิน จิ้มๆ มาสามเมนู คือ เจลลี่คอฟฟี่ สโนไวท์ (นมสดปั่นใส่เม็ดกาแฟ) กับอีกเมนูที่ลืมชื่อ เป็นกาแฟปั่นที่ใส่ส้มด้วย ระหว่างนั่งรอของที่สั่งก็เริ่มสังเกตรอบข้างบ้าง ร้านนี้คนเข้าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว หมอๆ ก็ดูนิยมเข้ามานั่งกัน

































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น